วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

พฤหัสบดี ที่ 24กรกฏาคม 2551

เรื่องเราเตอร์

ข้อสอบอัตนัย10ข้อ
1.เราเตอร์ คืออะไร
ตอบ เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานในระดับชั้นเน็ตเวิร์กตามรูปข้างล่างนี้ เราเตอร์ทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ในระดับเดทาลิงค์ได้หลายรูปแบบ

2.เราเตอร์ ทำหน้าที่อะไร
ตอบ ในการจัดหาเส้นทางเพื่อส่งแพกเกตข้อมูลไปยังเครือข่ายปลายทางที่ต้องการ

3.เราเตอร์จะรับข้อมูลเป็นรูปแบบใด
ตอบ แบบแพ็กเก็ต

4.เราเตอร์มีความสามารถใช้โปรโตคอลได้หลากหลาย สิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คืออะไร
ตอบ ซอฟต์แวร์จัดการระบบเครือข่าย ( Network Operating System )

5.เราเตอร์ทำงานบนเลเยอร์ที่เท่าไรตามมาตรฐานของ OSI Model
ตอบ เราเทอร์ทำงานบนเลเยอร์ที่ 3 ตามมาตรฐานของ OSI Model
6.อุปกรณ์หลักในการเชื่อมโยงเครือข่าย คือ
ตอบ บริดจ์ เราเตอร์ และ สว

7.อะไรเป็นอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่ายสองเครือข่ายที่แยกจากกัน
ตอบ บริดจ์

8.การป้องกันการกระจายสัญญาณ คืออะไร
ตอบ อุปกรณ์เราเตอร์ป้องกันการกระจายสัญญาณ ( Broadcast ) ข้ามเซกเมนต์ ซึงแตกต่างจากรีพีตเตอร์และบริดจ์

9.อุปกรณ์เราเตอร์ เป็นยังไง
ตอบ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีในแบบเราติง ซึ่งถ้ามองย้อนหลังไปในอดีตนั้น มีบทบาทมากในการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

10.เราเตอร์มีลักษณะการใช้งานคล้ายกับอะไร
ตอบ คล้ายกับ สวิตซ์(Switch)

ข้อสอบปรนัย10ข้อ

1.ข้อใดหมายถึงอุปกรณ์เชื่อมต่อ "เราท์เตอร์(Router)?
ก. อุปกรณ์เชื่อมต่อหลายเครือข่าย
ข. เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายที่ต่างกัน
ค. อุปกรณ์เชื่อมต่อที่มีการขยายสัญญาณ
ง. อุปกรณ์เชื่อมต่อที่ไม่มีการขยายสัญญาณ

2.อุปกรณ์หลักในการเขื่อมโยงเครือข่าย คืออะไร
ก. บริดจ์
ข. เราเตอร์
ค. สวิตซ์
ง.ถูกทุกข้อ

3.เร้าเตอร์จะทำงานในแบบจำลอง osi กี่ลำดับ
ก.1
ข.2
ค.3
ง.4

4.ข้อใดเป็นสัญญาณที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ ?
ก. สัญญาณดิจิตอล
ข. สัญญาณไมโครเวฟ
ค. สัญญาณอะนาลอก
ง. สัญญาณดาวเทียม

5.สัญญาณทางอิเล็กทรกนิกส์มีกี่ชนิด ?
ก. 2 ชนิด
ข. 3 ชนิด
ค. 4ชนิด
ง. 5 ชนิด

6.เราเตอร์จะรับข้อมูลเป็นแพ็กเก็ตเข้ามาตรวจสอบแอดเดรสผ่านไปทางไหน
ก. กลางทาง
ข. ปลายทาง
ค. ต้นทาง
ง.ถูกทุกข้อ

7.อุปกรณ์เราเตอร์ เป็นยังไง
ก. เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีในแบบเราติง ซึ่งถ้ามองย้อนหลังไปในอดีตนั้น มีบทบาทมากในการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ข. ฮาร์ดแวร์ชนิดหนึ่ง ที่คุณสามารถใช้ในการเชื่อมต่อ หรือ "สร้างเครือข่าย" ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ
ค. เราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ซับซ้อนกว่าบริดจ์ ทำหน้าที่เชื่อมต่อ LAN หลายๆ เครือข่ายเข้าด้วยกัน
ง. จุดอ่อนของอินเทอร์เน็ต. นักวิเคราะห์จากการ์ตเนอร์ว่า ... ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่แฮกเกอร์จะหลอกใช้เราเตอร์ คือทั้งหลอกและใช้

8.อุปกรณ์ข้อใดทำหน้าแปลงสัญญาณดิจิตอลเป็นอะนาลอกและแปลงกลับ ?
ก. โมเด็ม
ข. ซาวด์การ์ด
ค. แลนด์การ์ด
ง. ลำโพง

9.อะไรเป็นอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่ายสองเครือข่ายที่แยกจากกัน
ก. บริดจ์
ข. เราเตอร์
ค. สวิตซ์
ง. ไม่มีข้อถูก

10.ข้อดีของการใช้เราเตอร์
ก. ในการใช้เราเตอร์เชื่อมต่อเครือข่ายเข้าด้วยกัน ปริมาณการส่งข้อมูลของแต่ละเครือข่ายย่อยจะแยกจากกันโดยเด็ดขาด
ข.มีความคล่องตัวในการทำงานสูง เนื่องจากสามารถทำงานร่วมกับโทโพโลยีได้ทุกชนิด
ค.สามารถกำหนดความสำคัญในการส่งข้อมูลได้ เช่น สามารถกำหนดได้ว่าหากข้อมูลที่ส่งไปอยู่ในรูปแบบของโปรโตคอลที่มีลำดับความสำคัญสูง ก็สามารถลัดคิวส่งออกไปได้ก่อน
ง.ถูกทุกข้อ

วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เรียนวันอังคารที่8กรกฏาคม 2551

การต่อสาย LAN

***การทำสายสัญญาณ เพื่อใช้เองในบ้านหรือในสำนักงานขนาดเล็กก็ได้ วิธีการก็ไม่มีอะไรมากอย่างแรกเลยก็จัดเตรียมเรื่องของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะต้องใช้ให้ครบถ้วนก่อนจะได้ไม่ต้องวิ่งหาตอนติดตั้ง โดยอุปกรณ์โดยทั่วไปก็มี สายสัญญาณหรือ UTP Cable หรือที่บ้านเราเรียกกันว่าสาย LAN แล้วก็หัว RJ-45 (Male), Modular Plug boots หรือตัวครอบสาย หากว่ามี Wry Marker แล้วก็จะมีเหมือนกันเพราะว่าจะช่วยในการทำให้เราจำสายสัญาณได้ว่าปลายด้านไหนเป็นด้านไหน ซึ่งโดยส่วนมากแล้วก็จะเป็นหมายเลข ไว้ใส่ในส่วนปลายทั้งสองด้านเพื่อให้ง่ายในการตรวจสอบระบบสายสัญญาณ คีมแค้มสายสัญญาณ หรือ Crimping Tool, มีดปอกสาย หรือ Cutter
***เอาละมาว่ากันเลยดีกว่าก่อนอื่นก็หยิบมีดหรือ Cutter อันเล็ก ๆ มาอันหนึ่งแล้วก็เล็งไปที่นิ้วจากนั้นก็ตัดนิ้วทิ้งไปซะ แล้วค่อยเอาหัว RJ มาต่อกับนิ้วแทน เท่านี้คุณก็สามารถเชื่อมต่อตัวคุณเองเข้าสู่ระบบเครือข่ายด้วยความไวสูงสุดถึง 100 มิลลิลิตรต่อนาที บางทีอาจจะเป็น Full Duplex Mode อีกต่างหาก ล้อเล่น ๆ เอาละนะใช้มีดปอกสายสัญญาณที่เป็นฉนวนหุ้มด้านนอกออกให้เหลือแต่ สายบิดเกลียวที่อยู่ด้านใน 8 เส้นแล้วก็จะเห็นด้ายสีขาว ๆ อยู่ให้ตัดทิ้งได้ โดยการปอกสายสัญญาณนั้นให้ปอกออกไว้ยาว ๆ หน่อยก็ได้ประมาณสัก 1 เซ็นครึ่งก็น่าจะได้นะ
***จากนั้นก็ให้ใส่ Modular Plug boots เข้ากับสาย UTP ด้านที่กำลังจะต่อกับหัว RJ-45

การ Cross สาย Lan

***จะบอกเล่าเรื่องเกี่ยวกับระบบสายสัญญาณให้ฟังแล้วกันนะ หลายๆ คนคงเคยทำระบบเครือข่ายมาบ้าง และคงสงสัยอยู่ว่าบางครั้งเขาใช้สายธรรมดา บางครั้งใช้สาย Cross บ้าง แล้วสองสายนี้แตกต่างกันอย่างไรบ้าง ลองมาดูลักษณะการเชื่อมต่อภายในของสาย UTP 8 เส้นที่ว่าก่อนดีกว่าว่าเป็นยังไงบ้าง
ถ้าเป็นการเข้าสายแบบธรรมดาหรือที่เขาใช้กันทั่วไป จะเป็นการต่อแบบที่ 1 ไป และ 2 ไป 2 จนถึง 8 ส่วนการไล่สีก็จะมีเป็นมาตรฐานกลาง ๆ ในการ ใช้ดังที่แสดงอยู่นั่นแหละ อันนี้เขาจะใช้เชื่อมต่อระหว่าง เครื่องคอมพิวเตอร์มาที่ HUB หรือ Switchingส่วนข้างล่างนี้เป็นการเข้าสายที่เราเรียกว่า Cross Cable นั่นเอง สังเกตว่าจะเป็นการสลับระหว่าง 1,2,3,6 ซึ่งเขา มักจะใช้ในกรณีของเชื่อมต่อระหว่าง HUB-to-HUB โดยที่ไม่ผ่านทาง Uplink Port คือ ต่อจาก Port ธรรมดาไป Port ธรรมดา เขาต้องใช้สาย Cross และเราสามารถนำมาดัดแปลง ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์สองเครื่องที่ต้องการต่อเป็น เครือข่ายโดยผ่านทางสาย UTP ได้โดยการใส่ LAN Card ลงที่เครื่องทั้งสองแล้วใช้สาย Cross ในการเชื่อมต่อเครื่อง ทั้งสองให้เป็นระบบเครือข่ายโดยไม่ต้องใช้ HUB ก็ได้
ส่วนสายอีก 4 เส้นที่เหลือคือ 4,5,7,8 ก็ไม่ต้องไปสลับอะไรกับมันก็ได้ เพราะว่าไม่ได้ใช้ในการส่งสัญญาณนะจ๊ะ..
รูปแสดงคีมหรือ Crimping Tool ที่จะใช้ในการแค้มหัว อันนี้เป็นของยี่ห้อ Amp ราคาในตลาดก็คงประมาณ 5,000-6,000 บาทมั้งแต่ถ้าไม่ได้ใช้เยอะก็แนะนำให้เดินซื้อแถวพันทิพย์ หรือ ศูนย์คอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ทุกมุมในปัจจุบันนี้ ถ้าเอาแบบพอใช้ได้ราคาก็ประมาณ 400-800 บาท คุณภาพก็พอใช้ได้นะ ผมก็เคยซื้อมาใช้หลายอันแล้ว แต่ของ Amp นี้ค่อนข้างน่าใช้และชัวร์กว่าเยอะในการเข้าสาย แต่ราคานี่สิผมว่ามันไม่ค่อยจะน่าสนเท่าไหร่ ถ้าเราไม่มีอาชีพในการทำงานด้านนี้เฉพาะหรือ ต้องมีการเดินระบบสายสัญญาณบ่อย ๆ
หลังจากที่ปอกสายเสร็จแล้วก็ให้ทำการแยกสายทั้ง 4 คู่ที่บิดกันอยู่ออกเป็นคู่ ๆ ก่อนโดยที่ให้แยกคู่ต่าง ๆ ตามลำดับต่อไปนี้
ส้ม-ขาวส้ม ---> เขียว-ขาวเขียว ---> น้ำเงิน-ขาวน้ำเงิน ---> น้ำตาล-ขาวน้ำตาล เพื่อแบ่งสายออกเป็นหมวดหมู่ใหญ่ ๆ ก่อน จากนั้นจึงค่อยมาทำการแยกแต่ละคู่ออกมาเป็นเส้น โดยให้ไล่สีดังนี้
ขาวส้ม ---> ส้ม ---> ขาวเขียว ---> น้ำเงิน ---> ขาวน้ำเงิน ---> เขียว ---> ขาวน้ำตาล ---> น้ำตาล
ซึ่งสีที่ไล่นี้เป็นสีที่ใช้เป็นมาตรฐานในการเชื่อมต่อ ซึ่งจริง ๆ แล้วการเข้าสายมีมาตรฐานการไล่สีอยู่หลัก ๆ ก็ 2 แบบแต่ในที่นี้ผมเอาแบบนี้แล้วกันเพราะว่าส่วนมากแล้วเขาจะใช้วิธีการไล่สีแบบนี้ หลังจากจัดเรียงสีต่าง ๆ ได้แล้วก็ให้จัดสายให้เป็นระเบียบ ให้พยายามจัดให้สายแต่ละเส้นชิด ๆ กัน
หลังจากนั้นให้ใช้คีมตัดสายสัญญาณที่เรียงกันอยู่นี้ให้มีระบบปลายสายที่เท่ากันทุกเส้น โดยให้เหลือปลายสายยาวออกมาพอสมควร จากนั้นก็ให้เสียบเข้าไปในหัว RJ-45 ที่เตรียมมา โดยให้หันหัว RJ-45 ดังรูปจากนั้นค่อย ๆ ยัดสายที่ตัดแล้วเข้าไป โดยพยายามยัดปลายของสาย UTP เข้าไปให้สุดจนชนปลายของช่องว่าในหัว RJ-45 เลย
จุดสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการเชื่อมต่อสายสัญญาณในช่วงนี้ก็คือต้องยัดฉนวนหุ้มที่หุ้มสาย UTP นี้เข้าไปในหัว RJ-45 ด้วย โดยพยายามยัดเข้าไปให้ได้ลึกที่สุดแล้วกัน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการหักงอของสายง่าย
แล้วก็นำเข้าไปใส่ในช่องที่เป็นช่องแค้มหัวของ RJ-45 ในคีมที่จะใช้แค้มหัว หรือ Crimping Tool ให้ลงล็อกของคีมพอดี จากนั้นก็ให้ทำการกดย้ำสายให้แน่น เพื่อให้ Pin ทีอยู่ในหัว RJ-45 นั้นสัมผัสกับสายทองแดงที่ใส่เข้าไป บรรจงนิดหนึ่งนะครับในช่วงนี้ เพราะว่าเป็นช่วงหัวเลียวหัวต่อของชีวิตสายสัญญาณของคุณเลยแหละ เท่าที่ประสบการในการเข้าสายสัญญาณของผม ถ้าเป็นไอ้เจ้า Amp นี่ก็ไม่ต้องออกแรงมากเท่าไหร่ก็ OK ได้เลย แต่ถ้าเป็นแบบของทั่ว ๆ ไปก็คงต้องออกแรงกดกันนิดหนึ่งแล้วกัน
ท้ายที่สุดก็จะได้ปลายสัญญาณของระบบที่คุณต้องการดังกล่าวดังรูป ที่นี้ก็ไปทำอย่างที่ว่ามานี้อีกครั้งหนึ่งที่ปลายสายอีกด้านหนึ่ง แต่อย่าหลงเข้าใจผิดว่านี่เป็นสาย Cross นะ เพราะว่าสาย Cross นั้นคุณต้องทำการสลับสายสัญญาณที่เข้านี้ ลองไปดูหัวข้อ Tip of the Day นะผมแนะนำการเข้าสาย Cross ไว้ที่นั่นแล้ว เพราะว่าการเข้าสายทั้งสองแบบนี้การไล่สีของสายไม่เหมือนกัน แตกต่างกันนิดหน่อย ส่วนสาย Cross เราสามารถนำเอาไปเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องให้เป็นระบบเครือข่ายได้โดยที่ไม่ต้องใช้ HUB ได้เลย แต่ได้แค่ 2 เครื่องเท่านั้น ส่วนสายแบบที่ต่อตรง ๆ นั้นจะใช้เชื่อมต่อจากเครื่องคอมพิวเตอร์มายัง HUB